วงจรอนุกรม
เป็นการนำเอาเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือโหลดหลายๆ อันมาต่อเรียงกันไปเหมือนลูกโซ่ กล่าวคือ ปลายของเครื่องใช้ไฟฟ้าตัวที่ 1 นำไปต่อกับต้นของเครื่องใช้ไฟฟ้าตัวที่ 2 และต่อเรียงกันไปเรื่อยๆ จนหมด แล้วนำไปต่อเข้ากับแหล่งกำเนิด การต่อวงจรแบบอนุกรมจะมีทางเดินของกระแสไฟฟ้าได้ทางเดียวเท่านั้น ถ้าเกิดเครื่องใช้ไฟฟ้าตัวใดตัวหนึ่งเปิดวงจรหรือขาด จะทำให้วงจรทั้งหมดไม่ทำงาน
คุณสมบัติที่สำคัญของวงจรอนุกรม
1. กระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านเท่ากันและมีทิศทางเดียวกันตลอดทั้งวงจร
2. ความต้านทานรวมของวงจรจะมีค่าเท่ากับผลรวมของความต้านทานแต่ละตัวในวงจรรวมกัน
3. แรงดันไฟฟ้าตกคร่อมส่วนต่างๆ ของวงจร เมื่อนำมารวมกันแล้วจะเท่ากับแรงดันไฟฟ้าที่แหล่งกำเนิด
การต่อวงจรไฟฟ้า
การต่อวงจรไฟฟ้าสามารถจำแนกตามการใช้งานได้ 2 แบบ คือ แบบอนุกรม และแบบขนาน
รูปการต่อหลอดไฟแบบอนุกรม
การต่อวงจรอนุกรมจะใช้หลอดไฟฟ้าหรือความต้านทานหรืออุปกรณ์ไฟฟ้ามาต่อกันเข้าแบบอนุกรมแล้วต่อเข้ากับขั้วแหล่งกำเนิดแรงดันไฟฟ้า หรือแบตเตอรี่ เพื่อให้เกิดการไหลของกระแสในทิศทางเดียว อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต่อแบบอนุกรม เช่นวงจรจุดไส้หลอดวิทยุซึ่งเมื่อไส้หลอดใดหลอดหนึ่งดับ อุปกรณ์จะไม่ทำงาน และเตารีดไฟฟ้า ซึ่งมีฟิวส์ สวิตช์และ Thermostat ต่อกันแบบอนุกรม เป็นต้น
วงจรขนาน
วงจรขนาน เป็นวงจรไฟฟ้าที่ต่อความต้านทานหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ แต่ละตัวคร่อมกับแหล่งกำเนิดของวงจร
รูปการต่อวงจรแบบขนาน
ทำให้เกิดการไหลของกระแสไฟฟ้าหลายทาง ผลรวมของกระแสที่จ่ายออกไปจะเท่ากับผลรวมของกระแสที่ไหลในแต่ละส่วนของวงจรรวมกัน และแรงดันที่ตกคร่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกตัวจะเท่ากัน แม้ว่าอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้นจะมีขนาดไม่เท่ากันก็ตาม
เป็นบทความที่ใช้ได้เลยครับ ขอบคุณครับ BANK ELECTRICON
ตอบลบสวดยอดเลยคับ สอบไปและไม่รุถูกป่าว ไม่แน่ใจลองมาหาข้อมูลดู (ขอบคุณครับ*,^)
ตอบลบขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมบล็อกนะค่ะ
ตอบลบต่อแบบไหนดีที่สุดคะ
ลบขอบคุณค่ะได้นำข้อมูลไปอ่านสอบ ^_^ เยี่ยมมากค่ะ
ตอบลบขอบคุณค่ะได้นำข้อมูลไปอ่านสอบ ^_^ เยี่ยมมากค่ะ
ตอบลบขอบคุณค่ะได้นำข้อมูลไปอ่านสอบ ^_^ เยี่ยมมากค่ะ
ตอบลบจะไปสอบเข้าเรียนเรยแวะมาอ่าน ขอบคุณสำหรับความรู้นะค้าบบบ
ตอบลบ